6. การจัดการกลุ่มชุดดินที่ 25 เพื่อให้เหมาะสมในการปลูกพืช
ในการจัดการกลุ่มชุดดินที่ 25 เพื่อให้เหมาะสมในการปลูกพืชนั้น เนื่องจากกลุ่มชุดดินนี้มีปัญหาและข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์หลายอย่าง ได้แก่ เป็นดินตื้น มีน้ำท่วมขังในฤดูฝน การระบายน้ำของดินค่อนข้างเลว เนื้อดินบนค่อนข้างเป็นทราย และความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำดังนั้นการจัดการการใช้ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของดิน ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
6.1 การเลือกชนิดของพืชให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่แลชนิดของดิน กลุ่มชุดดินนี้จึงเหมาะสมในการปลูกข้าวในช่วงฤดูฝน และสามารถปลูกพืชที่มีระบบรากสั้น และความทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี เช่น ถั่งเขียว ถั่วลิสง ข้าวฟ่าง และพืชผักต่าง ๆ นอกจากนี้ควรพิจารณานำพืชบำรุงดินมาปลูกสลับกับการปลูกข้าว เพื่อช่วยในการปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์และคุณสมบัติทางกายภาพของดิน
6.2 การจัดการเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในฤดูฝน ถ้าจะใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชไร่ ไม้ผลและพืชผัก หรือทำทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ จำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยการทำคันล้อมรอบพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำท่วม
6.3 การจัดการเพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำของดิน จำเป็นต้องมีการยกร่อง เมื่อใช้ในการปลูกพืชไร่ ไม้ผล และร่องระบายน้ำรอบแปลง
6.4 การจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านกายภาพของดิน เนื่องจากดินบนค่อนข้างเป็นทราย การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่นปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ในอัตรา 1.5-2.0 ต้นต่อไร่ ใส่คลุกเคล้า หรือการปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น ปอเทือง และโสนอัฟริกัน จะช่วยทำให้ดินมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น
6.5 การจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาความอุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งทำได้โดย
6.5.1 การจัดระบบการปลูกพืชหมุนเวียนที่มีพืชตระกูลถั่วแทรกอยู่ในระบบ
6.5.2 การปลูกปุ๋ยพืชสดแล้ว
6.5.3
การใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
จำเป็นต้องใช้ควบคู่กับปุ๋ยอินทรีย์
พวกปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก
และปุ๋ยพืชสด
เพราะอินทรียวัตถุจะช่วยปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพของดิน
โดยลดความเหนียวของดินและเพิ่มความร่วนซุย
ตลอดจนจะช่วยให้ดินมีความจุในการอุ้มน้ำและอาหารมากขึ้น