3. ลักษณะของกลุ่มชุดดิน ชุดดินและการประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดิน
3.1 ลักษณะของกลุ่มชุดดิน : เป็นดินลึกปานกลางที่มีชั้นลูกรัง ก้อนหิน เศษหินหรือชั้นหินพื้นของหินดินดาน ฟิลไลท์ ปะปนมากในช่วงความลึก 50-100 ซม. ดินบนเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนดินเหนียว สีน้ำตาล เหลือง หรือแดง ส่วนดินล่างเป็นดินร่วนปนดินเหนียวหรือดินเหนียว สีน้ำตาล เหลือง หรือแดง และในระดับความลึกระหว่าง 50-100 ซม. มีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนดินเหนียวหรือดินเหนียวปนลูกรัง ก้อนกรวด หรือเศษหินมาก ปฏิกิริยาดินตลอดหน้าตัดดินเป็นกรดจัดถึงกรดแก่ (pH 5.0-5.5) ดินมีการระบายน้ำดี ความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ ถึงปานกลาง ใช้ประโยชน์ในการปลูกยางพารา ไม้ผล กาแฟ และพืชไร่ บางชนิด
3.2 ลักษณะของชุดดิน
3.2.1 ชุดดินตราด (Trad series) เกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่ของหินดินดานและหินฟิลไลท์ บนสภาพพื้นที่แถบลูกคลื่นลอนลาดถึงลูกคลื่นลอนชัน มีความลาดเทอยู่ระหว่าง 2-6% เป็นดินลึกปานกลาง มีการระบายน้ำดี ดินบนเป็นดินร่วนหรือดินร่วนเหนียว สีน้ำตาลเข้ม หรือน้ำตาลปนแดงเข้ม ปฏิกิริยาเป็นกรดแก่ถึงกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) ดินล่างเป็นดินร่วนเหนียวถึงดินเหนียว สีแดงปนเหลืองถึงสีแดง มักพบชั้นหินพื้นของหินดินดานและหินฟิลไลท์ อยู่ระหว่าง 50-100 ซม. ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงกรดแก่ (pH 4.5-5.5) ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ ใช้ประโยชน์ในการปลูกยางพารา บางส่วนยังคงสภาพเป็นป่าธรรมชาติอยู่
3.2.2 ชุดดินตรัง (Trang series) เกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่ของหินดินดานและหินฟิลไลท์ สภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาดถึงเป็นเนินเขา มีความลาดเทอยู่ระหว่าง 4-15% เป็นดินลึกมาก มีการระบายน้ำดี ดินบนเป็นดินร่วนปนทรายถึงดินร่วนเหนียว สีน้ำตาลปนแดง น้ำตาลหรือแดงปนเหลือง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงกรดปานกลาง (pH 5.0-6.0) ดินล่างเป็นดินร่วนเหนียวถึงดินเหนียว สีแดงปนเหลืองถึงสีแดง มักพบชั้นหินพื้นของหินดินดานและหินฟิลไลท์ อยู่ระหว่างความลึก 50-100 ซม. ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงกรดแก่ (pH 4.5-5.5) ความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ ใช้ประโยชน์ในการปลูกยางพารา ไม้ผล กาแฟ บางส่วนยังคงสภาพเป็นป่าธรรมชาติอยู่
3.2.3 ชุดดินป่าดังเบซาร์ (Padang Besar series) เกิดจากตะกอนที่น้ำพัดพามาทับถมบนตะพักลำน้ำระดับกลาง สภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอดลาดถึงลูกคลื่นลอนชัน มีความลาดเทอยู่ระหว่าง 3-8% เป็นดินลึกปานกลาง มีการระบายน้ำดี ดินบนเป็นดินทรายปนดินร่วนถึงดินร่วนปนทราย สีน้ำตาลปนเทาเข้มมากถึงสีน้ำตาล ดินล่างตอนบนเป็นดินร่วนปนทราย สีน้ำตาลแก่หรือสีเหลืองปนแดง ส่วนดินล่างเป็นดินเหนียวปนทรายปนกรวดมาก หรือดินเหนียวปนกรวดมาก สีแดงปนเหลือง กรวดที่พบเป็นพวกศิลาแลงที่จับตัวกันอย่างหลวม ๆ ปะปนอยู่กับเศษหินทรายและหินควอทต์ไซต์ที่มีลักษณะกลมหรือค่อนข้างกลม มักพบชั้นกรวดนี้ภายในความลึก 1 เมตรจากผิวดิน ปฏิกิริยาดินตลอดหน้าตัดดินเป็นกรดจัดถึงกรดปานกลางความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ ใช้ประโยชน์ในการปลูกยางพารา ไม้โตเร็ว ป่าละเมาะ ทุ่งหญ้า บางส่วนยังคงสภาพเป็นป่าตามธรรมชาติอยู่
3.2.4 ชุดดินนาทอน (Na Thon series) เกิดจากการผุพังสลายตัวอยู่กับที่ของหินดินดานและหินฟิลไลท์ สภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาดถึงเนินเขา มีความลาดเทอยู่ระหว่าง 2-16% เป็นดินลึกปานกลาง ดินมีการระบายน้ำดี ดินบนเป็นดินร่วนปนทรายแป้ง หรือดินร่วน สีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม ปฏิกิริยาดินกรดจัดถึงกรดแก่ (pH 5.0-5.5) ดินล่างตอนบนเป็นดินร่วนถึงดินร่วนเหนียว สีน้ำตาลแก่ สีน้ำตาลปนเหลือง ส่วนดินล่างเป็นเหนียวที่มีสีผสมของสีน้ำตาล เหลือง แดง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงกรดแก่ (pH 4.5-5.5) พบชั้นหินที่กำลังสลายตัวผุพังของหินดินดาน ฟิลไลท์ ระหว่างความลึก 50-125 ซม. ความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ ใช้ประโยชน์ในการปลูกยางพารา
3.2.5 ชุดดินโอลำเจียก (O Lum Chiak series) เกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่ของหินดินดานและหินฟิลไลท์บนพื้นผิวที่เหลือค้างจากการกร่อน สภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาดชัน มีความลาดเทอยู่ระหว่าง 2-6% เป็นดินลึกปานกลาง มีการระบายน้ำดีดินบนเป็นดินร่วนเหนียวถึงดินเหนียว สีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลปนแดงเข้ม ปฏิกิริยาดินเป็นกรดเล็กน้อยถึงด่างปานกลาง (pH 6.5-8.0) ดินล่างเป็นดินเหนียว สีแดงปนเหลืองถึงสีแดง ปฏิกิริยาของดินเป็นกรดปานกลางถึงด่างอ่อน (pH 6.0-7.5) และพบชั้นหินพื้นที่กำลังสลายตัวระหว่างความลึก 50-100 ซม. มีสีผสมของน้ำตาลปนเหลือง เหลืองปนแดง แดง ความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติปานกลาง ใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพด ถั่ว ไม้ผล เช่น อ้อย ขนุน มะละกอ บางส่วนยังคงสภาพเป็นป่าตามธรรมชาติอยู่
3.2.6 ชุดดินคลองเต็ง (Khlong Teng series) เกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่ของหินดินดาน ฟิลไลท์ สภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาดถึงเนินเขา มีความลาดชันอยู่ระหว่าง 3-16% เป็นดินลึกปานกลาง มีการระบายน้ำดีปานกลางถึงดี ดินบนเป็นดินร่วน ดินร่วนปนทรายแป้งถึงดินร่วนปนดินเหนียว สีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม ดินล่างเป็นดินร่วนปนดินเหนียวถึงดินเหนียว สีน้ำตาลแก่ถึงน้ำตาลปนเหลือง หรือแดงปนเหลือง ปฏิกิริยาดินตลอดหน้าตัดดินเป็นกรดจัดถึงกรดปานกลาง (pH 5.0-6.0) และพบชั้นหินพื้นพวกหินดินดาน ฟิลไลท์ ที่กำลังผุพังสลายตัว มีสีผสมของสีเหลืองปนน้ำตาล แดงปนเหลือง ภายในความลึกไม่เกิน 50 ซม. จากผิวดิน ความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ ใช้ประโยชน์ในการปลูกยางพารา บางส่วนยังคงสภาพเป็นป่าตามธรรมชาติอยู่
3.3 การประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ในการประเมินได้ใช้คุณสมบัติทางเคมี ได้แก่ค่าความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุบวก (C.E.C) ค่าการอิ่มตัวด้วยเบส (B.S.) ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (O.M.) ปริมาณฟอสฟอรัส (P.) และโพแทสเซียม (K.) ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ซึ่งได้จากผลการวิเคราะห์ดินที่เป็นตัวแทนของชุดดินในกลุ่ม พิจารณาเฉพาะดินบนหนาประมาณ 30 ซม. วิธีการประเมินใช้วิธีของกองสำรวจและจำแนกดิน กรมพัฒนาที่ดิน ผลของการประเมินสรุปไว้ในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ผลการวิเคราะห์ดินและระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ชุดดิน Profile Code |
ค่าเฉลี่ยผลการวิเคราะห์ดินบนหนา 30 ซม. |
ระดับ ความอุดมสมบูรณ์ |
||||
C.E.C. me/100gsoil |
B.S. % |
O.M. % |
P ppm. |
K ppm. |
||
ตราด /SE-18/13 |
8.35 |
5.87 |
2.71 |
3.16 |
46.0 |
ต่ำ |
ตรัง /S-65/2 |
4.67 |
19.3 |
1.6 |
4.87 |
32.8 |
ต่ำ |
ปาดังเบซาร์ /S-68/135 |
1.98 |
28.03 |
1.19 |
1.72 |
31.4 |
ต่ำ |
นาทอน /S-67/12 |
7.8 |
12.0 |
2.95 |
3.1 |
78.0 |
ต่ำ |
โอลำเจียก /SE 17/25 |
47.15 |
79.2 |
7.90 |
68.71 |
27.65 |
สูง |
คลองเต็ง /S-65/27 |
26.24 |
6.3 |
3.04 |
2.05 |
89.4 |
ปานกลาง |
สรุป : จากการประเมินความอุดมสมบูรณ์ของชุดดินที่ 53 พบว่าความอุดมสมบูรณ์ต่ำถึงสูง