8. สรุป

          กลุ่มดินที่ 60 เป็นดินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนลำน้ำ พบบริเวณสันริมฝั่งแม่น้ำและเนินตะกอนระหว่างหุบเขา มีสภาพการระบายน้ำดีปานกลางถึงดี ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นดินลึก เนื้อดินละเอียดปานกลาง แต่บางแห่งอาจพบดินค่อนข้างเป็นทรายหรือมีชั้นลูกรังอยู่ในดินตอนล่าง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดปานกลางถึงเป็นกลาง และความอุดมสมบูรณ์อยู่ในระดับปานกลาง

          การใช้ประโยชน์ปัจจุบัน คือใช้ในการปลูกผัก พืชไร่ และไม้ผลบางชนิดรอบ ๆ บริเวณที่อยู่อาศัย

          ปัญหาในการใช้ประโยชน์ได้แก่ ปัญหาน้ำท่วมเป็นครั้งคราว ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ โดยเฉพาะบริเวณที่เนื้อดินเป็นทราย และสภาพพื้นที่ค่อนข้างไม่สม่ำเสมอ

          การจัดการควรเน้นด้านการป้องกันน้ำท่วม การปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดิน การรักษาความชื้นในดินและการชะล้างพังทลายของดินในบางพื้นที่

          การใช้ประโยชน์ที่เหมาะสม ควรเป็นการเพาะปลูกพืชแบบผสมผสานระหว่างพืชผัก พืชไร่ และไม้ผล การที่เลือกกิจการใดมาผสมผสานกันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาดสำหรับผลผลิต


    ตารางที่ 2 สรุปการจัดการกลุ่มชุดดินที่ 60 เพื่อให้เหมาะสมแก่การปลูกพืชที่แนะนำ

ชนิดพืช

ปัญหาและข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน

วิธีการจัดการดิน

1. พืชไร่

 

 

 

 


1.1 ข้าวโพด

- น้ำท่วมป่า

 


-ดินค่อนข้างเป็นทรายและมีความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ

 

-ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ

- ทำพนังหรือเขื่อนกันน้ำพร้อมทั้งจัดระบบการระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกหรือ

- ปรับระยะเวลาการปลูกพืชเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงน้ำท่วมบ่า

- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยเทศบาล อัตรา 1-2 ตันต่อไร่หรือปลูกพืชปุ๋ยสดแล้วไถกลบลงดิน เมื่อปุ๋ยพืชสดอายุ 40-50 วัน หรือออกดอกประมาณ 50%

- ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร อัตรา และวิธีการใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่ปลูกดังนี้

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 (ในกรณีดินมีโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชต่ำ) อัตรา 50-75 กก./ไร่ หรือสูตร 1+-16-18 อัตรา 30-40 กก./ไร่ ใส่ร่วมกับปุ๋ยสูตร 21-0-0 อัตรา 20-25วัน โดยใส่รองก้นหลุมและโรยสองข้างแถวปลูก แล้วพรวนดินกลบ

1.2 ถั่วเหลือง

 


1.3 ถั่วลิสง

 

1.4 ละหุ่ง

 

1.5 งา

 

1.6 ฝ้าย

 

- ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-16 อัตรา 35 กก./ไร่ หรือสูตร 16-20-0 หรือ 20-20-20 อัตรา 30 กก./ไร่ ใส่ร่วมกับโพแทสเซียมคลอไรด์ อัตรา 10 กก./ไร่ โดยหว่านปุ๋ยทั้งหมดในแปลงแล้วคราดกลบก่อนปลูก 1 วัน หรือโรข้างแถวปลูกแล้วพรวนดินกลบเมื่อถั่วเหลืองอายุ 20-25 วัน

- ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-16 อัตรา 35 กก./ไร่ หรือสูตร 12-24-12 หรือ 10-20-10 อัตรา 25-35 กก./ไร่ ใส่ตอนปลูกหรือหลังปลูก 20-25 วัน โดยใส่รองก้นหลุม หรือโรยสองข้างแถวปลูกแล้วพรวนดินกลบ

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 14-14-14 หรือ 15-15-15 อัตรา 35-40 กก./ไร่ ใส่ตอนปลูกและหลังปลูก 20-25 วัน แบ่งครึ่งใส่ โดยครั้งแรกใส่รองก้นหลุมและครั้งที่สองโรยรอบโคนต้นแล้วพรวนดินกลบ

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 30-40 กก./ไร่ ใส่ตอนปลูกและหลังปลูก 20-25 วัน แบ่งครึ่งใส่ ครั้งแรกใส่รองก้นหลุม ครั้งที่สองโรยข้างแถวปลูกหรือหว่านปุ๋ยทั้งหมดหลังปลูกถ้าปลูกแบบหว่าน

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 14-14-14 หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตรา 35-45 กก./ไร่ ใส่ตอนปลูกและหลังปลูก แบ่งครึ่งใส่ ครั้งแรกรองก้นหลุมปลูก ครั้งที่สองโรยข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ

1.7 ปอแก้ว


1.8 ยาสูบ

 

2. พืชผัก

 

 


2.1 ผักรับประทานใบและลำต้น ได้แก่ คะน้า ผักกาดขาว กะหล่ำปลี กระหล่ำดอก ฯลฯ

2.2 ผักรับประทานผล เช่น พริก มะเขือเทศ มะเขือต่าง ๆ แตงต่าง ๆ เป็นต้น

2.3 ผักรับประทานหัว ได้แก่ หอมแดง และหอมหัวใหญ่

 

 

 


- น้ำท่วมบ่า

-ดินค่อนข้างเป็นทรายและมีความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ

- ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตรา 25-30 กก./ไร่ โดยโรยข้างแถวหลังปลูก 1 เดือน แล้วพรวนดินกลบ

- ใส่ปุ๋ยสูตร 6-20-16 อัตรา 100 กก./ไร่ โดยหว่านก่อนปลูก หรือ แบ่งใส่ แต่ส่วนมากนิยมโรยสองข้างแถวปลูกแล้วพรวนดินกลบ ถ้าแบ่งใส่ 2 ครั้ง คือรองก้นหลุมและใส่หลังปลูก 20-25 วัน

- ให้จัดการเช่นเดียวกับการปลูกพืชไร่ที่ได้กล่าวมาแล้ว

- ให้จัดการเช่นเดียวกับการปลูกพืชไร่ที่ได้กล่าวมาแล้ว

- ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร อัตรา และวิธีการใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผักที่ปลูกดังนี้


- ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ สูตรอื่นที่ใกล้เคียงกัน อัตรา 40-50 กก./ไร่ แบ่งใส่สองครั้ง ครั้งละเท่า ๆ กัน ครั้งแรกใส่หลังจากย้ายกล้าปลูกแล้ว 7 วัน ครั้งที่สองใส่หลังจากครั้งแรก 20-25 วัน โดยใส่สองข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ

- ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือสูตรอื่นที่ใกล้เคียงกัน อัตรา 50-60 กก./ไร่ แบ่งใส่สองครั้ง ครั้งละเท่า ๆ กัน ครั้งแรกใส่หลังจากย้ายกล้าปลูก 5-7 วัน ครั้งที่สองใส่เมื่อเริ่มออกดอก หรือหลังจากย้ายกล้าปลูกประมาณ 30 วัน โดยโรยสองข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ

- ใช้ปุ๋ยสูตร 20-10-10 อัตรา 40-50 กก./ไร่ แบ่งใส่สองครั้ง ครั้งละเท่า ๆ กัน ครั้งแรกใส่ก่อนปลูกโดยหว่านให้ทั่วแปลง ครั้งที่สองใส่หลังปลูกแล้ว 30 วัน หว่านให้ทั่วแปลงแล้วรดทันที

2.4 พืชรับประทานหัว ได้แก่ เผือก และมันเทศ

3. ไม้ผล

 

 

 


3.1 มะม่วง

 

 

3.2 มะละกอ


3.3 ฝรั่ง

 

 

- น้ำท่วมบ่า

 

-ดินค่อนข้างเป็นทรายและมีความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ


-ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ

- ใส่ปุ๋ยสูตร 16-8-16 อัตรา 50-60 กก./ไร่ แบ่งใส่สองครั้งเท่า ๆ กัน ครั้งแรกใส่รองก้นหลุมก่อนปลูกครั้งที่สองใส่หลังปลูกประมาณ 30 วัน โดยโรยสองข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ

- ทำพนังหรือเขื่อนกั้นน้ำพร้อมทั้งจัดระบบการระบายน้ำออกจากพื้นที่ปลูก ในกรณีที่น้ำท่วมขังนาน แต่ปรกติจะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ่ามากนักสำหรับไม้ผล

- เตรียมหลุมปลูกขนาด 50x50x50 ซม. เป็นอย่างน้อย คลุกเคล้าดินในหลุมปลูกด้วยปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก 25-30 กก./หลุม

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร อัตรา และวิธีการใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ผลที่ปลูก ดังนี้

-ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งของจำนวนอายุ เช่น มะม่วง 10 ปี ใส่ปุ๋ยจำนวน 5 กก.ต้น/ปี แบ่งใส่ 3 ครั้ง คือ 1 ใน 3 ส่วนใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ใส่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ครั้งที่สองใส่อีก 1 ใน 3 ส่วน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ใส่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม และปุ๋ยที่เหลือ 1 ใน 3 ส่วนใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 หรือ 8-24-24 ใส่ในช่วงเดือน กันยายน-ตุลาคม

- ควรใส่ปุ๋ยสูตร 14-12-12 หรือ 20-15-15 อัตรา 1 กก./ต้น ระยะต้นอ่อนถึงก่อนออกดอก หลังจาก 1 ปีขึ้นไปใส่ประมาณ 1-1.5 กก./ต้น

- ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 อัตราประมาณ 1 กก./ต้น/ปี ควบคู่ไปกับการใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอัตรา 10 กก./ต้น

3.4 กล้วยหอม

 

3.5 ขนุน

 

 

 

 


3.6 ส้ม

 

 

 

 

 

 

 

3.7 ลำใย

 

- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเมื่ออายุ 1 สัปดาห์ 1 เดือนและ 2 เดือน ครั้งละประมาณ 5 กก./ต้นใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 1 กก./ต้น แบ่งใส่ 2 ครั้ง เมื่ออายุ 3 เดือนและ 5 เดือน

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 20-10-10 อัตรา 100-200 กรัม/ตัน/ครั้ง

อายุ 1-3 ปี ใส่ 6 ครั้งต่อปี

อายุ 4-6 ปี ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หนึ่งครั้งต่อปี อัตรา 20-30 กก./ต้น ใส่ห่างต้น

- ก่อนออกดอก 3 เดือน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1-2 กก./ต้น

- ปลายฤดูฝนใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-14 อัตรา 1-2 กก./ต้น/ปี

- ปีแรกใส่ปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 10-20 กก./ต้น และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 150-200 กรัม/ต้น ใส่ 4-6 ครั้งต่อปี

- ปีที่ 2 ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 2 กก./ต้น/ปี แบ่งใส่ 4 ครั้ง ๆ ละ 500 กรัมต่อตัน

- สำหรับส้มที่ติดผลแล้วใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 2 กก./ต้น/ปี แบ่งใส่ 4 ครั้งเท่า ๆ กัน ตามระยะเวลาดังนี้

ครั้งที่ 1 ใส่หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตและตัดแต่งกิ่งแล้ว

ครั้งที่ 2 ใส่ก่อนออกดอก 15 วัน

ครั้งที่ 3 ใส่หลังออกดอก 2-3 เดือน

ครั้งที่ 4 ใส่ก่อนเก็บผล 2-3 เดือน

- เตรียมหลุมปลูก

ใส่ปุ๋ยสูตร 0-3-0 อัตรา 500 กรัม/หลุม คลุกเคล้ากับดินในหลุมปลูก

- ก่อนตกผล (0-4 ปี)

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตรา 300-400 กรัม/ต้นxอายุปี แบ่งใส่ 2 ครั้ง ละเท่า ๆ กัน โดยหว่านให้สม่ำเสมอรอบบริเวณทรงพุ่ม ห่างจากโคนต้น 30 ซม. แล้วพรวนดินกลบ ใส่ในเดือนเมษายนและมิถุนายน และใส่ปุ๋ยร่วมสูตร 14-0-20 หรือ 15-5-20 อัตรา 200-300 กรัม/ต้นxอายุปี เป็นการปุ๋ยครั้งที่ 3 ในเดือนสิงหาคม

- ตกผลแล้ว

ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 300-400 กรัม/ต้นxอายุปี หรือสูตร 15-30-15 อัตรา 250-300 กรัม/ต้นxอายุปี แบ่งใส่ 2 ครั้ง ๆ ละเท่า ๆ กัน โดยการขุดร่องหรือชุดเป็นหลุมรอบทรงพุ่มลึกประมาณ 20-30 ซม. หยอดปุ๋ยลงหลุมแล้วเอาดินกลบ ใส่หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต 2 ครั้ง และใส่ปุ๋ยร่วมหลังติดผลแล้ว 1 ครั้ง โดยใช้สูตร 14-0-20 หรือ 15-5-20 อัตรา 200-300 กรัม/ต้นxอายุปี หรือ ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 14-14-21 อัตรา 500-600 กรัม/ต้นxอายุปี แบ่งใส่ 3 ครั้ง ๆ ละเท่า ๆ กัน คือหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 2 ครั้ง และหลังติดผล 1 ครั้ง

 

back.gif (2807 bytes)forward.gif (2807 bytes)