6. การจัดการกลุ่มชุดดินที่ 4 เพื่อให้เหมาะสมในการปลูกพืช ควรจะได้พิจารณาดำเนินการดังต่อไปนี้
6.1 การเลือกชนิดของพืชให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่และชนิดของดิน ซึ่งกลุ่มชุดดินที่ 4 มีศักยภาพเหมาะสมในการทำนาหรือปลูกข้าวเป็นอันดับแรกในช่วงฤดูฝน เนื่องจากพบในสภาพพื้นที่ราบต่ำ ดินมีการระบายน้ำเลว ดินมักมีน้ำท่วมขังอยู่ระหว่าง 3-4 เดือน อย่างไรก็ตามสามารถปลูกพืชไร่อายุสั้น เช่นถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วสิสง ข้าวโพดหวาน ยาสูบ ฯลฯ และพืชผักส่วนต่าง ๆ ในช่วงฤดูแล้วหรือหลังการเก็บเกี่ยวข้าวเพราะดินยังมีความชื้นพอที่จะปลูกได้และพอจะมีแหล่งน้ำธรรมชาติมาช่วยเสริม
6.2 การป้องกันน้ำท่วมขัง ในกรณีที่จะเปลี่ยนสถานการใช้ที่ดินจากนาข้าวเป็นการปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ต้องทำคันดินล้อมรอบพื้นที่เพาะปลูก และมีประตูปิดและเปิด เพื่อระบายน้ำเข้าและออกจากพื้นที่เมื่อมีความจำเป็น
6.3 การจัดการเพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำของดิน เนื่องจากกลุ่มชุดดินที่ 4 ในช่วงฤดูฝนระดับน้ำใต้ดินจะอยู่ตื้นหรือใกล้ผิวดิน และดินมีสตาพการระบายน้ำเลวจึงเป็นต้องทำการยกร่องปลูกในกรณีจะปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้งหรือปลูกแบบถาวร ในกรณีที่ปลูกพืชไร่ และพืชผักหลังการเก็บเกี่ยวข้าวควรทีร่องระบายน้ำตื้น ๆ รอบแปลงนา ถ้าเป็นแปลงนาข้าวใหญ่ควรทำร่องระบายน้ำในแปลงนาห่างกัน 15-20 เมตร เพื่อช่วยในการระบายที่ผิวดินเมื่อมีฝนตกหนัก
6.4 การจัดการเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติทางด้านกายภาพของดินให้เกิดการร่วนซุยเหมาะสมต่อการปลูกพืชไร่ และพืชผัก โดยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่นปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก อัตรา 1.5-2.0 ตันต่อไร่ ใส่คลุกเคล้ากับเนื้อดินบน หรือการปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น ปอเทืองหรือโสนอัฟริกัน แล้วไถกลบเมื่อออกดอกเป็นปุ๋ยพืชสดหรือการใส่วัสดุปรับปรุงดินเช่นกากถั่วลิสง ขี้เลื่อย แกลบ กากน้ำตาล และเศษพืช เป็นต้น ไถคลุกเคล้าและกลบลงไปในดิน เมื่อสลายตัวแล้วจะช่วยทำให้ดินร่วนซุยและกลายเป็นอิทรีย์วัตถุช่วยเพิ่มแร่ธาตุอาหารพืชให้แก่ดิน และยังช่วยดูดซับธาตุอาหารพืชที่ใส่ลงไปในดินในรูปปุ๋ยเคมีไม่ให้สูญเสียไปได้ง่ายอีกด้วย
6.5 การจัดการเพื่อรักษาและปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน ถึงแม้ว่ากลุ่มชุดดินที่ 4 จะมีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางอยู่แล้วก็ตาม แต่เมื่อใช้เพาะปลูกพืชติดต่อกันหลาย ๆ ปีย่อมจะเสื่อมความอุดมสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขซึ่งสามารถดำเนินการได้หลายวิธีดังนี้
6.5.1 การจัดระบบการปลูกพืชหมุนเวียนที่มีการปลูกพืชตระกูลถั่วสอดแทรกอยู่ในระบบการปลูกพืชหลัก เช่น ปลูกถั่วเหลือง ข้าว ยาสูบ หรือพืชผัก ข้าว ถั่วต่าง ๆ เป็นต้น จะช่วยรักษาและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มผลผลิตของพืชหลักที่ปลูกอีกด้วย
6.5.2 การปลูกพืชปุ๋ยสดแล้วไถกลบลงในดิน โดยพืชปุ๋ยสดเช่นปอเทืองโสน โสนอัฟริกัน และคั่วต่าง ๆ ก่อนการปลูกข้าว 2-3 เดือน แล้วไถกลบลงในดินเมื่อพืชปุ๋ยสดออกดอก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติทางด้านกายภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
6.5.3 การใช้ปุ๋ยเพื่อรักษาและปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีควบคู่กันไปในการใช้ดินปลูกพืชไร่ ไม้ผลและพืชผักสำหรับปุ๋ยอินทรีย์เช่นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกและปุ๋ยพืชสดจะช่วยในการปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพของดินที่ได้กล่าวมาแล้ว ส่วนปุ๋ยเคมีจะช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชที่ปลูกสำหรับสูตร/อัตรา และวิธีการใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและดินที่ปลูกพืช ซึ่งสรุปไว้ในตารางที่ 3