7. ข้อเสนอแนะการใช้ประโยชน์กลุ่มชุดดินที่ 4 เพื่อการเกษตร

        กลุ่มชุดดินที่ 4 มีศักยภาพเหมาะสมทั้งการใช้ทำนา ปลูกพืชไร่และพืชผัก คือในช่วงฤดูฝนเหมาะสมในารปลูกข้าวเนื่องจากพบบริเวณที่ราบต่ำน้ำจากแม่น้ำท่วมถึง เนื้อดินเป็นดินเหนียวและมีการระบายน้ำเลวถึงค่อนข้างเลว ข้าวที่ปลูกไม่ได้รับผลกระทบจากความแห้งแล้งแต่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจนทำให้ข้าวที่ปลูกเสียหายในบางปีแต่ไม่บ่อยครั้งนักและในช่วงฤดูแล้งหลังการเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเหมาะสมในการปลูกพืชไร่และพืชผักหลายชนิด เช่นถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง ยาสูบ ข้าวโพด กระหล่ำปลี ผักกาดเขียว ผักกาดขาว คะน้า หอม แตงต่าง ๆ ฯลฯ ในสภาพปัจจุบันไม่เหมาะสมในการปลูกไม้ผลและไม้ยืนต้น เนื่องจากมีน้ำท่วมและขังแช่เป็นระยะเวลานานในรอบปี ถ้าจะใช้ประโยชน์ทางด้านนี้จำเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเรื่องน้ำท่วมขังและการระบายน้ำของดินโดยการทำคันดินรอบพื้นที่ปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมและยกร่องปลูก เพื่อช่วยในการระบายน้ำของดินให้ดีขึ้นในช่วงฤดูฝน อย่างไรก็ตามเพื่อให้การใช้ประโยชน์ที่ดินกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพและได้รับผลตอบแทนสูงและลดความเสี่ยงในการลงทุน ควรจัดระบบการใช้ที่ดิน “แบบผสมผสาน” หรือ “แบบไร่นาสวนผสม” โดยมีการแบ่งพื้นที่การใช้ประโยชน์ออกเป็นส่วนดังนี้

        7.1 บริเวณที่ใช้ทำนา ควรเป็นบริเวณต่ำสุดของที่ดินที่เกษตรกรถือครองในช่วงฤดูฝนน้ำจะขังเร็วและไม่ขาดแคลนน้ำในการปลูกข้าวและพื้นที่ส่วนนี้ในฤดูแล้งสามารถปลูกพืชไร่และพืชผักต่าง ๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากดินมีความชื้นพอและสามารถนำน้ำจากแม่น้ำมาใช้เสริมในการปลูกพืชได้อีกด้วย ซึ่งเกษตรกรได้ปฏิบัติอยู่แล้วในบางพื้นที่ สำหรับการจัดการดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว พืชไร่และพืชผัก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่กล่าวไว้ในตารางที่ 3

        7.2 บริเวณปลูกพืชไร่ ไม้ผลและพืชผักตลอดปี ถ้าเป็นไปได้ควรเป็นที่นาที่อยู่สูงกว่าพื้นที่ 7:1 ทำการพัฒนาที่ดินโดยการเปลี่ยนนาข้าวให้สามารถปลูกพืชไร่ไม้ผลและพืชผักต่าง ๆ ด้วยวิธีการทำคันดินล้อมรอบพื้นที่ปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมและยกร่องปลูกแบบถาวรเพื่อช่วยการระบายน้ำของดิน การจัดการดินเพื่อให้เหมาะสมในการปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักชนิดต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ได้กล่าวไว้ในตารางที่ 3

        7.3 บริเวณพื้นที่พัฒนาแหล่งน้ำ ควรเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างพื้นที่ที่ใช้ทำนากับพื้นที่ปลูกพืชไร่ ไม้ผลและพืชผักต่าง ๆ เป็นที่ที่ไม่ลุ่มและไม่ดอนจนเกินไปขนาดของแหล่งน้ำที่จะพัฒนานั้นควรเป็นบ่อน้ำประจำไร่นาคือมีความจุประมาณ 1,200-1,500 ม3 จะมีจำนวนที่แห่งขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ประโยชน์ และแหล่งน้ำที่พัฒนามานั้นควรมีการเลี้ยงปลาควบคู่ไปด้วยสำหรับบริเวณคันดินรอบบ่อควรใช้ปลูกไม้ผล เช่น มะม่วง ขนุน ฝรั่ง กล้วย ฯลฯ และไม้ดอก ไม้ประดับต่าง ๆ เพื่อให้เกิดรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

        7.4 บริเวณที่ใช้เลี้ยงสัตว์ได้แก่ ไก่ เป็ดและหมู เป็นต้น ควรใช้บริเวณพื้นที่พัฒนาแหล่งน้ำที่มีการเลี้ยงปลาอยู่ด้วย โดยสร้างเป็นโรงเรือนขึ้นมา แล้วเลี้ยงสัตว์ดังกล่าว ให้ถ่ายมูลในบ่อน้ำเพื่อเป็นอาหารปลา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนอาหารปลาได้อีกส่วนหนึ่งสำหรับอัตราส่วนการใช้ที่ดินประเภทต่าง ๆ ที่กล่าวจะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ ความต้องการของเกษตรกรและความต้องการของตลาดสำหรับผลิตผลทางการเกษตรที่จะผลิตออกจำหน่ายทั้งตลาดท้องถิ่นและนอกท้องถิ่น

   

back.gif (2807 bytes)forward.gif (2807 bytes)