4.ความเหมาะสมของกลุ่มชุดดินสำหรับการปลูกพืชต่าง ๆ
เนื่องจากกลุ่มชุดดินที่ 6 พบบริเวณพื้นที่ราบเรียบถึงราบลุ่ม เนื้อดินเป็นดินเหนียวการระบายน้ำเลว ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำขังอยู่ที่ผิวดิน ระหว่าง 3-5 เดือน จึงมีศักยภาพเหมาะสมที่จะใช้ทำนาในช่วงฤดูฝน และในช่วงฤดูแล้งสามารถปลูกพืชไร่ พืชผัก หรือพืชอื่นที่มีอายุสั้นไดสำหรับในบริเวณพื้นที่ที่มีน้ำชลประทานเข้าถึงหรือมีแหล่งน้ำธรรมชาติ สามารถใช้ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ผล หรือปลูกพืชไร่และพืชผักตลอดทั้งปีจะต้องทำคันดินล้อมรอบพื้นที่เพาะปลูกและยกร่องปลูกเพื่อช่วยการระบายน้ำของดิน้เพื่อให้การใช้ประโยชน์กลุ่มชุดดินนี้มีทางเลือก จึงได้จัดชั้นความเหมาะสมของดินออกเป็น 2 อย่าง คือ ความเหมาะสมของดินในการปลูกพืชในช่วงฤดูฝนและใช้ประโยชน์อยู่ในสภาพปัจจุบัน (actual suitability) ความเหมาะสมของดินในการปลูกพืชในช่วงในฤดูแล้วหรือหลังการพัฒนาที่ดินแล้ว (potential suitability) สำหรับชั่นความเหมาะสมของดินและข้อจำกัดหลักในการใช้ประโยชน์ของกลุ่มชุดดินที่ 6 ได้สรุปไว้ในตรารางที่ 2
พืช |
ชั้นความเหมาะสมของดินสำหรับการปลูกพืช |
การปรับปรุงและพัฒนาที่ดินควรดำเนินการ |
||
ปลูกในฤดูฝน |
ปลูกในฤดูแล้ง |
หลังการพัฒนาที่ดินแล้วในเขตชลประทาน |
||
พืช พืชไร่ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว อ้อย ไม้ผล มะพร้าว มะม่วง ส้ม ทุเรียน เงาะ มังคุด ยางพารา โกโก้ ลองกอง พืชผัก หญ้าเลี้ยงสัตว์ |
1
3f 3f 3f 3f 3f
3f 3f 3f 3f 3f 3f 3f 3f 3f 3f 3f |
2w
1m 1 1m 1 1
- - - - - - - - - 1d - |
1
1 1 1 1 1
1 1 1 1c 1c 1c 1c 1c 1c 1 1 |
-พัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอ
-ทำคันดินรอบพื้นที่ปลูกเพื่อป้องกันน้ำท้วมขังและมีการะระบายน้ำออก -ยกร่องปลูกเพื่อช่วยการระบายน้ำของดินให้ดีขึ้น -ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก เพื่อปรับปรุงให้ดินร่วนซุย
-ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับการปลูกพืชไร่
-ปลูกพืชคลุมดิน
-ทำคันรอบพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำแช่ขังในฤดูฝน |
หมายเหตุ 1) ชั้นความเหมาะสมของดินแบ่งออกเป็น 3 ชั้นคือ
ชั้นที่ 1 เป็นชั้นดินที่ความเหมาะสม
ชั้นที่ 2 เป็นชั้นดินที่ไม่ค่อยเหมาะสม
ชั้นที่ 3 เป็นชั้นดินที่ไม่เหมาะสม
2) สัญลักษณ์ ที่ใช้แทนข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
c : ภูมิอากาศไม่เหมาะสมในการปลูกพืชบางชนิด
d : การระบายน้ำของดินเลว
f : ดินมีน้ำท่วมขังบางช่วงในรอบปี
m : ดินขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูก