8. สรุป
กลุ่มชุดดินที่ 22 พบบริเวณที่ราบระหว่างหุบเขาหรือเนินเขาและบริเวณตะพักลำน้ำระดับต่ำ ลักษณะเนื้อดินค่อนข้างเป็นทราบคือดินทราบปนดินร่วน ( loamy sand ) หรือดินร่วนปนทราย ( sandy loam ) สภาพพื้นที่ราบเรียบถึงเป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย ความลาดเทอยู่ระหว่าง 0-3 % ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำขังอยู่ระหว่าง 2-5 เดือนในรอบปี
ปัญหาที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ คือ เนื้อดินและโครงสร้างของดินไม่เหมาะสม ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ดินมีน้ำขังในช่วงฤดูฝนเป็นอุปสรรคในการปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก และมีน้ำท่วมทำให้ข้าวที่ปลูกเสียหายในช่วงฤดูฝนตกชุก
ความเหมาะสมของกลุ่มดินนี้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูก มีศักยภาพเหมาะสมในการทำนาในช่วงฤดูฝน ปลูกพืชไร่ และพืชผัก ก่อนและหลังการปลูกข้าว เพื่อให้การใช้ประโยชน์ที่ด้นกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพและกเกิดประสิทธิผลทั้งในด้านการักษษผลผลิต และรายได้ของเกษตรกรควรใช้ประโยชน์ที่ดินกลุ่มนี้ในแบบไร่นาสวนผสม โดยแบ่งพื้นที่การใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ทำนา พื้นที่ปลูกพืชไร่ ไม้ผลและพืชผัก พื้นที่พัฒนาแหล่งน้ำ และพื้นที่เลี้ยงสัตว์ อัตราส่วนของการใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ ความต้องการของเกษตรกรและความต้องการของตลาดสำหรับผลิตผลทางการเกษตรแต่ละชนิด
ตารางที่ 3 สรุปการจัดการกลุ่มชุดดินที่ 22 เพื่อให้เหมาะสมในการปลูกพืชแต่ละชนิด
ชนิดพืช/พันธุ์ |
ปัญหาและข้อจำกัดในการใช้ที่ดิน |
วิธีการจักการดิน |
1. ข้าว
: พันธุ์ที่แนะนำ ปทุมธานี 60
สุพรรณบุรี 60 พิษณุโลก 60-1 60-2 ชุมแพ 60
เก้ารวง 88 ขาวดอกมะลิ 105 ขาวตาแห้ง
กข.15 กข.7 กข.17 กข.23 กข.25 ฯลฯ 2. พืชไร่
2.2ถั่งลิสง : พันธุ์ที่แนะนำได้แก่ ไทนาน 9 เกษตร 1 2.3ข้าวโพด : ข้าวโพดหวาน
3.1มะม่วง : พันธุ์ที่ แนะนำได้แก่ เขียวเสวย ทองคำ ฟ้าลั่น น้ำดอกไม้ หลังกลางวัน 3.2มะละกอ : พันธุ์ที่แนะนำได้แก่ โกโก็ แขกดำ จำปาดะ สายน้ำผึ้งฮาวาย มาเลเซีย
4.1ถั่วฝักยาง :
พันธุ์ที่แนะนำ ได้แก่ ก2-1A มก.8 RW24
สองสีเชียวดก 4.2ผักชี : พันธุ์ที่แนะนำได้แก่ พันธุ์พื้นเมืองพันธุ์อิฟริกา
4.4กระเพรา
4.5ตะไคร้
4.8กระเทียม |
-เนื้อดินค่อนข้างเป็นทราย
-ปัญหาการระบายน้ำของดิน
-ปัญหาการระบายน้ำของดิน
-ปัญหาของน้ำท่วม -ปัญหาการระบายน้ำของดิน -ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ
|
-ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เช่นปุ๋ยคอก
ปุ๋ยหมักอัตรา 1.5 2.0 ตัน / ไร่
ในระยะการไถเตรียมดินก่อนปักดำข้าวหรือการปลูกพืชตระกูลถั่ว
เช่น ปอเทือง โสนอัฟริกัน ฯ
เพื่อเป็นปุ๋ยพืชสด
โดยใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 5 กก./ไร่
หว่านก่อนถึงฤดูทำนา ประมาณ 2-3
เดือน แล้วจึงไถกลบ -ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ16-16-18 หรือสูตรอื่นที่มีธาตุอาหารเท่าทียมกัน อัตรา 40 กก./ไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง คือครึ่งหนึ่งใส่ก่อนปักดำ 1 วัน และใส่อีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ ระยะข้าวตั้งท้อง หรือระยะที่ข้าวแตกกอสูงสุด
-แก้ไขโดยการใช้ปุ๋ยเคมีสำหรับสูตรอัตราและวิธีการใช้ขึ้นอยู่กับขนิดของพืขทีปลูกดังนี้ -การใส่ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยหินฟอสเฟตเป็นปุ๋ยรองพื้นก่อนปลุกในอัตรา 200 กก./ไร่ หรือใช้ทริปเปิลซุปเปอร์ฟอสเฟต ( 0-46-0 ) อัตรา 15 กก./ไร่ ร่วมกับการใช้ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์อัตรา 20กก./ไร่ เป็นปุ๋ย รองพื้นก่อนปลูก -ใส่ปุ๋ยรองพื้นสูตร
12-24-12 ในอัตรา 30กก./ไร่
และควรเพิ่มปุ๋ยเดี่ยวในรูปของทริปเปิลซุปเปอร์ฟอสเฟต
( 46% P2 O5 ) อีกประมาณ 10 กก./ไร่ -ทำคันดินล้อมรอบพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำท่วม -ยกร่องขึ้นแปลงปลูกไม้ผลเพื่อป้องกันการแช่ขังของน้ำและเพื่อปรับปรุงการระบายน้ำในช่วงที่มีระดับน้ำใต้ดินตื้นไม่ไให้แช่รากพืช -เตรียมหลุมปลูกขนาด 50 x50 ลึก 50 ซม. คลุกเคล้าด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 25-30 กก./หลุม -แก้ไขโดยการใช้ปุ๋ยเคมี สูตร อัตรา และวิธีการใช้ขึ้นอยู่กับไม้ผลที่ปลูก ดังนี้ -ใส่ปุ๋ยเคมีในอัตราครึ่งหนึ่งของจำนวน อายุ เช่น มะม่วง อายุ 10 ปี ก็ใส่ปุ๋ยจำนวน 5 กก. /ต้น โดยใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 300 กรัม/ ตัน ในช่วงเดือนมีนาคม เมษายน ใช้ปุ๋ย 15-15-15 ในช่วงเดือนพฤษภาคม ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 หรือ 8-24-24 อัตรา 200 กรัม /อายุต้น ในช่วงเดือน กันยายน ตุลาคม -ปุ๋ยเคมีใช้สูตร 14-12-12 หรือ 20-15-15 ใส่ ครั่งแรกหลังจากย้ายปลูก 2-3 สัปดาห์มะละกออายุได้ 1 ปี ใสปุ๋ย 1 กก. /ต้น /ปี หลังจากอายุได้ 1 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-1.5 กก./ต้น /ปี
-ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15หรือ 13-13-21 อัตราประมาณ 1 กก./ต้น /ปี ควบคู่ไปกับการใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักอัตรา 10กก./ต้น /ปี และเมื่อติดผลใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 1 กก./ต้น/ปี
-ใส่ปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมักเมื่ออายุ 1 สัปดาห์ 1 เดือน และ 2 เดือน ตามลำดับ ครั้งละประมาณ 5 กก./ต้น -ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 1กก./ต้น แบ่งใส่ 2 ครั้ง เมื่ออายุ 3 เดือนและ 6 เดือน -เมื่อต้นลำใยเริ่มให้ผลควรงดการให้น้ำข่วงเดือนธ้นวาคม ถึงมกราคม ควรทำความสะอาดบริเวณโคนต้น ถางหญ้าและเก็บกวาดใบที่ร่วงออกเพื่อให้หน้าดินแห้ง เดือนกุมภาพันธ์ลำใยแทงข่อดอก เริ่มให้น้ำโดยค่อย ๆ เพิทมปริมาณจนถึงปกติเดือนมีนาคม ถึงมิถุนายน ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยบำรุงผลสูตร 12-12-17 หรือปุ๋ยสูตรเสมอ (15-15-15) ในอัตราครึ่งหนึ่งอของอายุต้นและควรมีการค้ำยันกิ่งและฉีดสารเคมีป้องกันโรคและแมลงด้วย -ช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม ควรมีการลดการให้น้ำลงก่อนเกี่ยวผลผลิต -ช่วงเดือนกันยายน พฤศจิกายนควรมีการตัดแต่งกิ่งฉีดยาป้องกันโรคแมลงและใส่ปุ๋ยบำรุงต้นสูตร 15-15-15 อัตราครึ่งหนึ่งของอายุต้นร่วมกับการใส่ปุ๋ยคอกในอัตราเท่ากับอายุของต้น -ในฤดูฝนควรมีการทำคันดินกั้นล้อมรอบพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำจากข้างนอกเข้ามาท่วมแปลงและควรมีการทำทางระบายน้ำออกเวลาฝนตกหนัก
-ยกร่องขึ้นแปลงขนาด 1.5-2 เมตร -ใส่ปุ๋ยรองพื้นก่อนปลูก สูตร 20-10-10 อัตรา 50-100 กก./ไร่ ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตร15-15-15 อัตรา 25 กก./ไร่ ควรเมปุ๋ย 21-0-0 อัตรา 10 กก./ไร่ -ขึ้นแปลงปลูกขนาด 120 ซม. -ปลูกด้วยต้นกล้า -หลังปลูกควรรดน้ำให้ชุ่ม คลุมแปลงด้วยฟางบาง ๆ -ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอแต่อย่าให้แฉะ -กำจัดวัชพืช 2-3 ครั้ง ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 40 กก./ไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ๆ ละเท่ากันหลังกำจัดวัชพืช -ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 เป็นปุ๋ยรองพื้นอัตรา 25 กก./ไร่ -เมื่ออายุได้ 1 เดือน ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 ใส่ 15 วัน /ครั้ง ๆ ละ 50 กก./ไร่ และต้องกำจัดวัชพืชก่อนใสน่เสมอ (หรืออาจจะใช้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 25 กก. /ไร่ ร่วมกับใช้ปุ๋ยยูเรียอัตรา 20 กก./ไร่ ก็ได้) -ขึ้นแปลงปลูกขนาดประมาณ 120 ซม. -ปลูกตะไคร้ 4 ต้น /หลุม -ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ -ใส่ปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 50กก./ไร่ หลังจากปลูกประมาณ 1 เดือน โรยใส่ข้าง ๆ ต้นพรวนดินกลบ -ขึ้นแปลงขนาด 80-100 ซม. -ปลูกพริกโดยหยอดเมล็ดลงหลุมหรือใช้ต้นกล้าพริกปลูกก็ได้หลุมละ 1 ต้น -ควรให้น้ำ 7-10 วัน /ครั้ง -ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ14-14-21 อัตรา 75 กก./ไร่โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ๆ ละ เท่า ๆ กัน หลังการกำจัดวัชพืชเมื่อพริกอายุ 20 วัน และ 50 วันหลังปลูก -ตากดินแลพรวนดินปลูกโดยยกร่องระยะของสันร่องเท่ากับ 75 ซม. หรือขึ้นแปลงขนาด 125 ซม. -ใส่ปูนขาวปรับปรุงดินอัตรา 100-200 กก./ไร่ -ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุม ๆ ละ 1 กก.ร่วมกับปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 70 กก./ไร่ ใส่โพแทสเซียม 2 ครั้ง ครั้ง แรกอัตรา 50 กก./ไร่ ครั้งที่ 2 ใส่อัตรา 20กก./ไร่ ใน ระยะเริ่มออกดอก -ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตรา 1.5-2.0 ตัน/ไร่ ใช้ปุ๋ยรองพื้นขณะปลูกสูตร 15-15-15 ในอัตรา 40 กก./ไร่ คลุมด้วยฟางข้าวใส่ปุ๋ยยูเรียในอัตรา 20กก./ไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง คือ ครั้งหนึ่ง เมื่อกระเทียมอายุได้ 30 วัน และครั้งที่ 2 เมื่อกระเทียมอายุ 60 วัน |
หมายเหตุ : สูตรปุ๋ยที่แนะนำ อาจใช้ปุ๋ยสูตรอื่นที่มีเนื้อธาตุอาหารพืชเท่าหรือใกล้เคียงกันและมีขายในตลาดท้องถิ่นทดแทนกันได้