7. ข้อเสนอแนะการใช้กลุ่มชุดดินที่ 22 เพื่อการเกษตร
เนื่องจากกลุ่มชุดดินนี้พบในสภาพพื้นที่ราบต่ำ ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำขังแช่เป็นระยะเวลา 2-5 เดือน ในรอบปี จึงมีศักยภาพเหมาะสมในการที่จะใช้ไถนาหรือปลูกข้าวในช่วงฤดูฝน ปลูกพืชไร่อายุสั้นเช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง ยาสูบ ข้าวโพด และพืชผักต่าง ๆ ก่อนและหลังการปลูกข้าวเพราะดินมีความชื้นพอที่จะปลูกได้ และมีแหล่งน้ำธรรมชาติหรือพัฒนาขึ้นมาเสริม อย่างไรก็ตามเพือ่ให้การใช้ที่ดินกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ควรจัดระบบการใช้ที่ดิน แบบไร่นาสวนผสม โดยมีการแบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้
7.1 บริเวณที่ใช้ทำนาหรือปลูกข้าว ควรเป็นพื้นที่ราบต่ำสุดของบริเวณที่ดินที่เกษตรกรถือครอง ในช่วงฤดูฝนน้ำจะขังเร็วกว่าพื้นที่ส่วนอื่นและมักจะไม่ขาดน้ำในการเพาะปลูกข้าว เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวที่ปลูก ควรปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ได้กล่าวไว้ในตารางที่ 3 เกี่ยวกับการจัดการดินเพื่อให้เหมาะสมในการปลูกข้าว พื้นที่ส่วนนี้สามารถใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชไร่อายุสั้น และพืชผักต่าง ๆ ก่อนและหลังการปลูกข้าวได้ด้วยเพราะจะเป็นบริเวณที่ดินยังมีความชื้นพอที่จะปลูกได้
7.2 บริเวณที่ใช้ปลูกพืชไร่ พืชผักและไม้ผลตลอดปี ควรเป็นพื้นที่ที่อยู่สูงกว่าบริเวณ 7 : 1 คือเป็นนาค่อนข้างดอน ทำคันล้อมรอบเพื่อป้องกันน้ำท่วมและปรับปรุงสภาพการระบายน้ำของดินโดยการยกร่องหรือทำร่องระบายน้ำรอบแปลง รวมทั้งการปรับระดับพื้นที่ภายในแปลงให้สม่ำเสมอ การจัดการดินเพื่อปลูกพืชไร่ พืชผัก และไม้ผล ชนิดต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ได้กล่าวไว้ในตารางที่ 3
7.3 บริเวณที่พัฒนาแหล่งน้ำ ควรเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างพื้นที่ที่ใช้ปลูกข้าว และพืชไร่ ไม้ผล และผักต่าง ๆ พื้นที่ส่วนนี้จะไม่ลุ่มและดอนจนเกินไป ขนาดของแหล่งน้ำที่จะพัฒนานั้นควรเป็นขนาดแหล่งน้ำประจำไร่นาคือมีความจุประมาณ1,250 ม3 จะมีจำนวนกี่แห่งนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ประโยชน์และแหล่งน้ำที่พัฒนาขึ้นมานี้ควรจะมีการเลี้ยงปลาที่เลี้ยงง่ายโตเร็วและเป็นที่ต้องการของตลาดเช่นปลาไน ปลาสลิด ปลาดุก ปลาสวาย ปลาหมอตาล ปลาเท่โพ และอื่น ๆ สำหรับคันดินรอบบ่อหรือสระน้ำที่พัฒนาขึ้นควรใช้เป็นที่ปลูกไม้ผล เช่นมะม่วง ขนุน ฝรั่ง กล้าย ฯลฯ และไม้ดอกและไม้ประดับต่าง ๆ เพื่อให้เกิดรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้บริเวณคันดินรอบบ่อควรมีการปลูกหญ้า เช่น หญ้าแฝกทั้งด้านในและด้านนอกเพื่อป้องกันการกัดเซาะดินบริเวณคันดินรอบบ่อด้วย
7.4 บริเวณที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ได้แก่ ไก่ หมู และ เป็ด ควรใช้บริเวณพื้นที่ที่พัฒนาเป็นแหล่งน้ำที่มีการเลี้ยงปลา โดยสร้างเป็นโรงเรือนขึ้นมา แล้วมีการเลี้ยงไก่ หมู และหรือเป็ดให้ถ่ายมูลลงในบ่อน้ำเพื่อเป็นอาหารของปลาซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนอาหารปลาได้ส่วนหนึ่ง
สำหรับอัตราส่วนการใช้ที่ดินประเภทต่าง ๆ ที่กล่าวจะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ละแห่ง ความต้องการของเกษตรกรผู้ถือครองที่ด้น และสภาพเศรษฐกิจได้แก่ความต้องการของตลาดทั้งในท้องถิ่นและนอกท้องถิ่นสำหรับผลิตผลทางการเกษตรที่กล่าว อย่างไรก็ตามควรจะได้ยึดตามแนวทฤษฏีใหม่ในการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีแนวพระราชดำริให้กันพื้นที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ที่ถือครองเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ