7. ข้อเสนอแนะการใช้กลุ่มชุดดินที่ 6 เพื่อการเกษตร
เนื่องจากกลุ่มชุดดินที่ 6 เกิดในสภาพพื้นที่ราบลุ่ม เนื้อดินเป็นดินเหนียว ดินมีสภาพการระบายน้ำค่อนข้าง เลวและในช่วงฤดูฝนมีน้ำขังที่ผิวดินเป็นระยะเวลาระหว่าง 3-5 เดือน จึงมีศักยภาพเหมาะสมในการใช้ทำนา ส่วนในฤดูแล้งสามารถปลูกพืชไร่อายุสั้นหรือพืชผัก เพราะดินมีความชื้นเพียงพอ
ในกรณีที่ต้องการใช้กลุ่มชุดดินนี้ในการปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักตลอดทั้งปี จำเป็นต้องมีการพัฒนาที่ดินโดยการทำคันรอบพื้นที่ป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝนและยกร่องปลูกเพื่อช่วยด้านการระยายน้ำของดินให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อให้การใช้ที่ดินกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพควรจัดระบบการใช้ที่ดิน แบบไร่นาสวนผสม โดยมีการแบ่งพื้นที่การใช้ประโยชน์ดังนี้
7.1 บริเวณพื้นที่ที่ใช้ทำนาหรือปลูกข้าว มีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ และควรเป็นบริเวณที่ราบลุ่มที่สุดของพื้นที่ การจัดการดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว ให้ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการดินที่ได้กล่าวไว้ในตารางที่ 3 พื้นที่ส่วนนี้ หลังปลูกข้าวแล้ว สามารใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชไร่อายุสั้นหรือพืชผักต่าง ๆ ได้
7.2 บริเวณพื้นที่ปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก มีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ บริเวณนี้ต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนสภาพการใช้ที่ดินจากนาข้าวเป็นการปลูกพืชดังกล่าว โดยการทำคันรอบพื้นที่และยกร่อง ส่วนการเลือกใช้พื้นที่ปลูก พืชไร่ ไม้ผล หรือพืชผักในสัดส่วนเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของบตลาดและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
7.3 บริเวณพื้นที่ที่จะพัฒนาเป็นแหล่งน้ำ มีประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยการทำบ่อและทำคันดินรอบให้สูง ซึ่งนอกจากจะให้เป็นแหล่งน้ำเก็บไว้ปลูกพืชในตอบฤดูแล้งแล้ว ยังใช้เป็นบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งได้แก่ ปลาดุกอุย ปลาไน ปลานิล และปลาตะเพียนขาว เป็นต้น
นอกจากนี้ยังสามารถสร้างโรงเรือนบนบ่อเลี้ยงปลา เพื่อใช้เลี้ยงไก่ หรือหมู เพื่อให้มูลของสัตว์เหล่านี้เป็นอาหารของปลาได้ เป็นการช่วยลดต้นทุนอาหารของปลาได้ส่วนหนึ่ง